เพนเนลีฟ คูล เจล 12X30 กรัม

7 ประโยค / คำพูดที่คุณควรหัดบอกกับตัวเองบ่อยๆ

 การพูดกับตัวเองก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่คุณควรทำ (แม้อาจจะฟังดูบ้าๆ อยู่บ้าง) เพราะการได้หยุดแล้วใช้เวลากับตัวเองพร้อมทั้งสื่อสารบางอย่างนั้นก็เป็นเสมือนกับการย้ำสิ่งที่คุณให้ความสำคัญ ให้กำลังใจ หรือปลุกใจตัวเองอยู่พอสมควร นอกจากนี้แล้วมันยังมีส่วนสำคัญในการปรับทัศนคติของคุณด้วยเหมือนกัน

 

บล็อกวันนี้ ผมเลยลองรวบรวมประโยคดีๆ ที่คุณควรหยิบมาพูดให้ตัวเองฟังบ่อยๆ ทั้งในวันที่คุณมีปัญหา หรือวันที่คุณทำงานสำเร็จแล้วด้วย (แน่นอนว่าผมก็ใช้ 7 ประโยคนี้ด้วยนั่นแหละ) ลองดูกันนะครับ

1. ฉันทำได้

ปัญหาของหลายๆ คนคือการคิดว่าตัวเอง “ทำไม่ได้” และทำให้ต้องพลาดโอกาสในชีวิตหลายๆ อย่าง แม้ว่าจริงๆ แล้วเราไม่สามารถเป็นทุกอย่างได้ แต่การบอกตัวเองให้อยู่ในทัศนคติว่า “ทำได้” ก็ทำให้คุณกล้าที่จะลองกับมันสักตั้ง นอกจากนี้แล้วในเชิงจิตวิทยานั้น การที่คุณคิดว่าคุณทำได้ก็จะมีโอกาสสูงที่คุณจะทำได้ เช่นเดียวกับโอกาสที่คุณจะรีดเร้นความสามารถออกมาอย่างเต็มที่ ซึ่งนั่นต่างจากการที่คุณจะบอกตัวเองว่า “ทำไม่ได้” ซึ่งเรียกว่าปิดประตูตั้งแต่เริ่มแล้วนั่นแหละ

เวลาที่ควรใช้: เจอปัญหา หรืองานใหม่ที่ถูกมอบหมายมาให้ซึ่งดูเป็นเรื่องใหม่สำหรับเรา

2. ฉันผิดเอง

การยอมรับว่าตัวเองผิดอาจจะฟังดูเป็นการมองแง่ลบ แต่เชื่อเถอะครับว่าการบอกตัวเองให้รับผิดชอบนั้นเป็นก้าวสำคัญของการเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง เช่นเดียวกันนั้น การบอกตัวเองว่ามีส่วนในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นก็จะทำให้คุณเป็นส่วนหนึ่งของงานที่ต้องทำและทำให้คุณได้มุมมองใหม่แทนที่จะมองว่าคุณไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับมันหรือทำตัวลอยเหนือปัญหา ซึ่งนั่นจะทำให้คุณไม่ได้เรียนรู้อะไรจากสิ่งที่เกิดขึ้น

เวลาที่ควรใช้: เวลาเกิดปัญหาขึ้น มีความพลาดกับงานที่ทำ

3. เราจะทำอะไรได้อีก

แม้ว่างานที่คุณทำอาจจะเสร็จไปแล้ว แต่มันอาจจะยังไม่ได้สำเร็จหรือมีประสิทธิภาพสูงสุด ทัศนคติที่จำเป็นคือการพยายามคิดว่าคุณจะทำอย่างไรให้ดีขึ้นไปอีก แม้อาจจะเป็นเรื่องที่ฟังดูเหนื่อยและสร้างภาระเพิ่มให้กับตัวเอง แต่หลายๆ ครั้งนั้นจะเป็นโมเมนต์สำคัญที่ทำให้งานของคุณก้าวไปสู่อีกระดับหนึ่ง รวมทั้งตัวคุณเองด้วย

เวลาที่ควรใช้: ทำงานเสร็จแล้วแต่ก็ยังมีเวลาให้ปรับปรุงหรือแก้ไข หรือเมื่อคุณเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีเวลาว่างมากขึ้น

4. แล้วไง?

หลายๆ ครั้งในชีวิตของเราจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า “ข้ออ้าง” หรือ “ข้อแก้ตัว” ให้กับตัวเองอยู่เสมอเพื่อทำให้ตัวเราไปอยู่ในจุดที่สบายและไม่ต้องเดือดร้อนทั้งที่จริงๆ แล้วมันทำให้เราสูญเสียโอกาสหลายๆ อย่าง การเลือกสวนตัวเองกลับเพื่อให้คว้าสิ่งที่ดีกว่า (แม้ว่าอาจจะต้องเหนื่อยเพิ่มกว่าเดิม) ก็เป็นเรื่องที่ควรทำเช่นกัน

เวลาที่ควรใช้: เมื่อคุณเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีข้อแก้ตัวต่างๆ มาให้ไม่ทำสิ่งดีๆ หรือสิ่งที่มีประโยชน์กับชีวิตคุณ

5. ก้าวต่อไปคืออะไร?

เมื่อคุณพาตัวเองมาถึงจุดๆ หนึ่งได้นั้น แรกๆ คุณก็จะมีความสุขกับมันและหลายๆ ครั้งก็ทำให้ตัวเองรู้สึกว่า “พอแล้ว” จนไม่อยากจะเรียนรู้ใหม่หรือทดลองสิ่งอื่น มันอาจจะเป็นการพูดที่ดูกดดันตัวเองบ้าง แต่คนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่พยายามพลักดันตัวเองไปสู่จุดที่สูงขึ้นกว่าจุดที่อยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะทำงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม เร็วขึ้น หรือไปสู่ระดับที่ท้าทายกว่าเดิม วิธีการแบบนี้คือทำให้ตัวเขาพัฒนาตัวเองอยู่เสมอและกว่าจะรู้ตัวอีกที เขาก็จะไปไกลกว่าจุดที่เขาเคยคิดว่าอยากไปเสียอีก

เวลาที่ควรใช้: เมื่อคุณทำบางอย่างสำเร็จแล้ว หรือเมื่อคุณทำอะไรบางอย่างจนเริ่มเคยชินมากเกินไป

6. ไม่เป็นไรนะ

ใครๆ ก็ทำเรื่องผิดพลาดกันได้ แต่มันไม่ใช่ว่าคุณจะต้องจมไปกับความผิดพลาดนั้นอยู่จนลุกไม่ขึ้นหรือกลายเป็นโซ่ตรวนที่ยึดคุณไว้ การบอกตัวเองว่าไม่เป็นไรก็เป็นสิ่งที่คุณควรจะทำเพื่อยกโทษให้ตัวเอง มองตัวเองให้มีคุณค่าเพื่อที่จะได้ลุกแล้วก้าวต่อไปนั่นแหละ

เวลาที่ควรใช้: เวลาคุณรู้สึกผิดกับเรื่องบางเรื่องจนท้อหรืออยากเลิกทำงานนั้นๆ

7. เราไม่ได้อยู่คนเดียว

เวลาที่เราเจอปัญหารุมเร้านั้น หลายๆ ครั้งจะพลักดันให้เราอยู่ในภาวะที่คิดว่าเราโดดเดี่ยวหรือไม่มีใครเข้าใจเราทั้งที่จริงๆ มันอาจจะไม่ใช่อย่างนั้น มันจึงจำเป็นที่คุณต้องพยายามพาตัวเองออกจากกล่องดำโดยเร็ว เตือนตัวเองว่าคุณยังมีคนอื่นๆ ที่อยู่เคียงข้างคุณ มีคนที่รักคุณ มีคนที่แคร์คุณ หรือแม้แต่กับปัญหาเรื่องงานนั้นก็ยังมีเพื่อนร่วมงานคุณอยู่ สิ่งนี้สำคัญเพื่อเลี่ยงการให้คุณกลายเป็นโรคซึมเศร้าหรือจมอยู่กับความเครียดมากเกินไป

เวลาที่ควรใช้: เวลาที่คุณรู้สึกท้อแท้มากๆ และรู้สึกว่ารอบตัวไม่รู้จะหันไปหาใคร