คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์ตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นบรรดาสมาร์ทโฟนใช่ไหมล่ะคะ เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็มักจะเห็นคนก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ไม่สนใจคนรอบข้าง ซึ่งแน่นอนว่าการใช้สมาร์ทโฟนมากเกินไปไม่ได้เพียงแค่สงผลเสียต่อมนุษย์สัมพันธ์เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพอีกด้วย ซึ่งโรคหนึ่งที่เราน่าจะเริ่มรู้จักกันแล้วก็คือโรค Text neck ที่ทำให้ปวดคอปวดไหล่กันเรื้อรัง แต่ก็ไม่ได้มีเพียงแค่โรคนี้เท่านั้น เพราะยังมีอีกโรคหนึ่งที่อันตรายไม่แพ้กัน นั่นก็คือโรค Smartphone face ที่ส่งผลเสียต่อผิวหนังบริเวณใบหน้าจนอาจจะทำให้ดูแก่ก่อนวัยเลยล่ะค่ะ แต่ว่าเจ้าโรคนี้จะเป็นอย่างไร และใครบ้างที่มีความเสียง วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปดูกันค่ะ ถ้าไม่อยากใบหน้าหย่อนคล้อยก่อนวัย ห้ามพลาดเลย
โรค Smartphone face เป็นโรคที่เกิดจากการก้มหน้าเล่นสมาร์ทโฟนติดต่อกันเป็นเวลานาน จนทำให้ใบหน้าบริเวณโหนกแก้มและกล้ามเนื้อบริเวณแก้มสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้กล้ามเนื้อหย่อนคล้อยลง ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพ แต่เจ้าโรคนี้ก็จะทำให้คนหมดความมั่นใจและวิตกกังวลมากขึ้นจนทำให้ต้องไปพึ่งพาการศัลยกรรมความงามนั่นเอง
อาการของโรค Smartphone face
โรค Smartphone face แม้ว่าจะไม่จะไม่ทำร้ายสุขภาพโดยรวม แต่การที่ก้มลงมองหน้าจอ หรือจ้องสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตเป็นเวลานานเกินไป จะทำให้กล้ามเนื้อคอเกิดอาการเกร็งและไปเพิ่มแรงกดบริเวณแก้ม เมื่อแก้มถูกแรงกดติดต่อกันนาน ๆ เข้า ก็จะทำให้เส้นใยอิลาสติกบนใบหน้าสูญเสียความยืดหยุ่น จนทำให้กล้ามเนื้อแก้มบริเวณกรามย้อยลงมา แถมกล้ามเนื้อบริเวณมุมปากก็จะตกไปทางคางด้วย จนใบหน้าอาจดูผิดแปลกไปจากเดิม
อย่างไรก็ตามในเวลาปกติเราจะเห็นความผิดปกติของใบหน้าไม่ค่อยชัดเจนเท่าไรนัก แต่ถ้าหากถ่ายรูปเซลฟี่ หรือใช้วิดีโอคอลล์ละก็ รับรองว่าเห็นได้ชัดเจนเลยล่ะว่าใบหน้าดูหย่อนคล้อยไปจากเดิม และเพราะอย่างนี้นี่เองที่ทำให้หลาย ๆ คน เกิดขาดความมั่นใจจนต้องทำศัลยกรรมเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อกซ์ หรือฉีดฟิลเลอร์ เพื่อให้ใบหน้ากลับมาเต่งตึงเหมือนเก่า แต่ก็จะมีผลแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น แถมยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วยถ้าหากใช้สารเคมีเหล่านี้มากเกินไป