โรคซึมเศร้า...ยอดฮิต...ในสังคมคนเมือง!!

ในสังคมเมืองที่ไม่ว่าจะอยู่ไกลเพื่อน ๆ เพียงใด แต่หนุ่มสาวก็ยังมีเครื่องมือติดต่อสื่อสารกันทั้งวัน ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้กลับยังมีผู้คนอีกมากที่เป็นโรคซึมเศร้า และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

              หนุ่มสาวที่เป็นโรคซึมเศร้า จะมีอาการ เศร้าสร้อย หดหู่ สะเทือนใจง่าย ร้องไห้บ่อย บางคนอาจไม่มีอารมณ์เศร้าชัดเจนแต่จะบอกว่าจิตใจหม่นหมอง ไม่แจ่มใส ไม่สนชื่นเหมือนเดิม เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายไปกับทุกสิ่งทุกอย่าง

              ในบางราย สิ่งที่เคยทำแล้วเพลินใจหรือสบายใจ เช่น ฟังเพลง พบปะเพื่อนฟูง กลับไม่อยากทำซะอย่างนั้น รู้สึกเบื่อไปหมดตั้งแต่ตื่นเช้า มองอะไรก็รู้สึกแย่ไปหมด มองชีวิตที่ผ่านมาในอดีตก็เห็นแต่ความผิดพลาด ความล้มเหลวของตัวเอง ไม่เห็นทางออก มองอนาคตไม่เห็น รู้สึกท้อแท้ หมดหวังกับชีวิต 

ทำไมคนเมืองซึมเศร้า...ทั้ง ๆ ที่อยู่ในโลกออนไลน์ ?

              เพราะสังคมเมืองจำเป็นต้องแข่งขัน ค่าครองชีพสูง ค่าใช้จ่ายสูง ทำให้เกิดความเครียดสะสมเรื้องรังจะระบายออกลำบาก เพราะเป็นสังคมแบบต่างคนต่างอยู่ แม้จะมีสังคมออนไลน์ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเข้าถึง และสังคมออนไลน์บางทีก็ไม่ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง

              อาการเหล่านี้จะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อผู้ป่วยรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า ในช่วงนี้หากมีเหตุการณ์มากระทบกระเทือนจิตใจก็อาจเกินการทำร้ายตนเองขึ้นได้จากอารมณ์ชั่ววูบ หรือหลงลืมง่าย โดยเฉพาะกับเรื่องใหม่ ๆ ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ซึ่งเมื่อร่วมกับอารมณ์รู้สึกเบื่อเหนื่อยไม่อยากทำอะไร ก็จะทำให้ผู้อื่นมองว่าเป็นคนขี้เกียจ

อาการเสี่ยงของโรค

หลักการง่าย ๆ โดยให้สังเกตอาการ ดังนี้

1. มีอารมณ์ซึม ๆ เศร้า ๆ และความสนใจหรือความเพลินใจในกิจกรรมต่าง ๆ แทบทั้งหมดลดลงอย่างมาก

2. น้ำหนักลดลง หรือเพิ่มขึ้นมาก น้ำหนักเปลี่ยนแปลงมากกว่าร้อยละ 5 ต่อเดือน หรือมีการเบื่อกาหารหรือเจริญอาหารมาก

3. นอนไม่หลับ หรือหลับมากเกินไป กระวนกระวาย อยู่ไม่สุข หรือเชื่องช้าลง อ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง4.สมาธิในการทำงานลดลง ใจลอย หรือลังเลใจไปหมด สุดท้ายหนักที่สุดคือ คิดถึงเรื่องการตาย คิดอยากตาย

การดูแลตัวเอง....เมื่อเข้าข่ายซึมเศร้า

              จัดตารางในชีวิตประจำวัน และให้ดำเนินชีวิตตามตรารางงาน ค่อย ๆ  เพิ่มความรับผิดชอบงานที่ได้รับ ตั้งเป้าหมายให้สามารถทำได้ อย่าให้เกินความสามารถของตนเอง

              ให้มีสังคมกับผู้อื่น เพราะการอยู่คนเดียวจะทำให้อาการซึ่มเศร้าเป็นมากขึ้น มีกิจกรรมที่ชอบ เช่น การเล่นกีฬา ดูหนัง ฟังเพลง พร้อมกับนอนพักอย่างเพียงพอ รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 

              คิดถึงแต่เรื่องดี ๆ  ในชีวิตที่ผ่านมา มีเรื่องอะไรดี ๆ ที่เกิดขึ้นแล้วทำให้เรามีความสุข  ทำให้เราประทับใจบ้าง หรือคิดเรื่องในอนาคตว่า จะต้องดี! เราจะทำอะไรบ้าง ให้ชีวิตของเราดีขึ้นเรื่อยๆ และเชื่อมั่นว่ามันจะต้องดีขึ้นแน่ ๆ

ที่มา : www.smartsme.tv