เพนเนลีฟ คูล เจล 12X30 กรัม

5 นิสัยแย่ในการทำงานที่จะตัดโอกาสความก้าวหน้าของคุณ

 

ผมเชื่อว่าใครๆ ก็อยากก้าวหน้า อยากได้รับการเลื่อนขั้นหรืออยากได้โอกาสในการทำงานอะไรที่จะสร้างผลงานให้กับตัวเองได้ แต่ก็อีกนั่นแหละที่ผมมักจะตั้งข้อสังเกตว่าทำไมมีไม่กี่คนที่จะได้รับโอกาสนั้น (ทั้งที่ทุกๆ คนก็คิดนั่นแหละนะ) เช่นเดียวกับอะไรคือปัจจัยที่ทำให้หลายๆ คนสามารถคว้าโอกาสหรือเป็นดาวเด่นในการทำงานได้?

 

สำหรับเรื่องนี้นั้น เราก็สามารถตั้งข้อสังเกตได้ค่อนข้างหลากหลายอยู่เหมือนกัน อย่างในบล็อกวันนี้ผมขอลองหยิบนิสัยเสียๆ ที่มักทำให้คนทำงานไปไม่ถึงดวงดาวแล้วกันนะฮะ

1. มาทำงานไปวันๆ

ผมมักมีประโยคหนึ่งที่พูดกับทีมหรือน้องๆ ที่มาคุยกับผมบ่อยๆ ว่าอย่าใช้ชีวิตไปวันๆ และเรื่องงานเองก็ไม่ได้ต่างกัน เพราะถ้าเราไปทำงานเพียงเพราะเรามีหน้าที่ตามสัญญาจ้าง แล้วก็รอให้หมดๆ วันเพื่อจะได้กลับบ้าน บ้างก็ทำงานให้ครบๆ ตามที่ได้รับมอบหมายเพื่อจะได้ไม่ถูกตำหนิ พอเป็นอะไรแบบนี้ก็มีแต่จะทำให้คนอื่นๆ ไม่ได้มองเราต่างจากพนักงานทั่วๆ ไปที่สามารถหาคนมาแทนได้โดยที่บริษัทคงไม่ต้องรู้สึกเสียดายเราแต่อย่างใด เช่นเดียวกับตัวเราเองก็คงจะไม่ได้มีเป้าหมายหรือความมุ่งมั่นจะทำอะไรที่ดีขึ้นกว่าเดิมเป็นแน่ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว มันก็คงยากที่เราจะไปเตะตาผู้บริหารหรือหัวหน้างานเรา แถมดีไม่ดีจะกลายเป็นว่าเตะตาให้อยู่ในลิสต์คนที่ไม่มีประสิทธิภาพเสียอีกต่างหาก

2. มองเรื่องผลประโยชน์เป็นเหตุผลหลักของการทำงาน

หนึ่งในสิ่งที่คนประสบความสำเร็จหรือบรรดาหนังสือแนะนำการพัฒนาตัวเองมักบอกอยู่เสมอๆ คืออย่ามองการทำงานด้วยเป้าหมายเพียงเพื่อเรื่องเงินตอบแทน เพราะมันจะทำให้เราไม่ได้สนใจไปเรื่องของการพัฒนาตัวเอง การสนใจเรื่องความสำเร็จของงานที่ทำอยู่ ในขณะเดียวกัน ถ้าเราทำงานโดยสนใจแต่เรื่องเงินเป็นหลักนั้น สุดท้ายตัวเราเองนั่นแหละที่จะทำให้คนอื่นๆ รู้สึกได้ว่าเราไม่ได้สนใจความสำเร็จของเพื่อนร่วมงาน ของบริษัท แต่เราสนแต่เรื่องของตัวเอง ทีนี้ลองมองกลับว่าถ้าคุณเป็นเจ้าของบริษัทหรือหัวหน้างานแล้วพบว่าลูกน้องสนแต่เรื่องผลประโยชน์ตัวเองเป็นหลักแล้ว คุณว่าคุณจะพลักดันเขาให้ขึ้นมารับหน้าที่ใหญ่ๆ ไหมล่ะ?

3. เอาแต่นั่งรอให้หัวหน้าบอกว่าต้องทำอะไร

ถ้าเราลองสังเกตคนเก่งๆ ที่ได้รับโอกาสต่างๆ นั้น คนเหล่านี้มักจะมีนิสัยอย่างหนึ่งคือการชอบคิดและพยายามหาอะไรทำอยู่เรื่อยๆ และหลายๆ ครั้งเป็นเรื่องที่มากกว่างานที่ตัวเองทำ ทั้งนี้เพราะการทำงานในลักษณะ Proactive จะทำให้คนอื่นๆ รอบตัวคุณเห็นได้ถึงความพยายามและความตั้งใจในการทำงานให้ดีขึ้นของคุณ ซึ่งก็แน่นอนว่าคนเหล่านี้มักจะถูกให้ความสนใจเพราะพวกเขามักจะมากับความคิดว่าต้องไปสู่ “สิ่งที่ดีกว่า” หรือ “สิ่งที่ดีที่สุด” อยู่เสมอ แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราเอาแต่นั่งรอคำสั่ง มันก็เหมือนกับการบอกกลายๆ ว่าเราไม่ใช่ประเภทที่จะพยายามคิดหรือตั้งคำถามว่าจะก้าวหน้าหรือดีกว่าเดิมได้อย่างไร และสุดท้ายก็เหมาะจะเป็นแค่ “คนทำงาน” มากกว่า “คนคิดงาน” นั่นแหละ

4. ไม่พยายามเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง

บางทีคุณอาจจะมีความสามารถ อาจจะทำงานได้ดี แต่อีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรจะมีคือการพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม ข้อนี้เองก็อาจจะคล้ายๆ กับข้อที่แล้ว เพราะแม้ว่าคุณจะเก่ง มีความสามารถในหน้าที่ปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเก่งหรือมีความสามารถที่จะรับมือกับตำแหน่งและหน้าที่ใหม่ที่จะสูงขึ้นได้เว้นเสียแต่ว่าคุณจะสามารถแสดงให้หัวหน้าของคุณได้เห็นว่าคุณพยายามเรียนรู้และทำให้ระดับความสามารถของคุณสูงขึ้นอยู่เสมอ

5. ไม่มีส่วนร่วมกับการประชุมหรือกระบวนการคิดงาน

ทุกวันนี้เรามักมีการประชุมงานอยู่บ่อยๆ (บางคนอาจจะประชุมกันแทบทุกวันก็ได้) แต่ถ้าเราดูๆ กันแล้ว เรามักจะพบว่าคนเข้าประชุมมีด้วยกันหลักๆ สองประเภท คือคนที่ช่วยคิดงานหรือพยายามมีส่วนร่วมในการประชุมแม้บางเรื่องอาจจะไม่ใช่เรื่องของตัวเองด้วยซ้ำ แต่พวกเขาก็พยายามจะแชร์ไอเดียหรือช่วยเสริมความคิดให้ดีขึ้นไปกว่าเดิม แต่คนอีกประเภทหนึ่งคือเข้าประชุมตามหมายเรียก แล้วก็นั่งฟัง ไม่พูดจาหรือมีส่วนกับการแสดงความเห็น หรือไม่ก็รอๆ ให้การประชุมจบ ซึ่งพอเป็นแบบนี้ คนอื่นๆ ที่เขาประชุมงานด้วยความตั้งใจ (ซึ่งก็มักเป็นหัวหน้างานนั่นแหละ) จะมองคนสองประเภทนี้อย่างไรกันล่ะครับ

นี่เป็นเพียง 5 นิสัยง่ายๆ ที่ตัดโอกาสความก้าวหน้าในชีวิตการทำงานซึ่งเรามักเจอกันบ่อยๆ โดยอันที่จริงก็จะมีนิสัยแบบนี้อีกเยอะทีเดียว

ก็ลองถามตัวเองดูบ่อยๆ นะครับว่าตอนนี้เราทำงานด้วยนิสัยที่ทำให้คนอื่นชื่นชมหรือทำให้คนอื่นเลิกสนใจเรากันแน่

โดย nuttaputch.com