ช่วงนี้ผมไปบรรยายเรื่องการพาตัวเองไปสู่การประสบความสำเร็จอยู่บ่อยเหมือนกัน สิ่งหนึ่งที่ผมมักหยิบมาพูดบ่อยๆ คือนิสัยบางอย่างที่คนประสบความสำเร็จมักจะทำเป็นกิจวัตรประจำวัน เช่นเดียวกับมุมมองความคิดบางอย่างด้วยเช่นกัน
ที่ผมมักพูดย่างนี้เพราะสิ่งสำคัญที่คนเก่งๆ หรือประสบความสำเร็จทำให้ตัวเองก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วก็เพราะพฤติกรรมในทุกๆ วันของเขา และนั่นไม่ใช่เรื่องของโอกาสหรือโชคช่วยแต่อย่างใด
พูดแบบนี้แล้ว ผมเลยลองมานั่งนึกๆ นิสัยน่าสนใจของคนที่ประสบความสำเร็จ รวมทั้งทัศนคติต่างๆ ที่ผมเรียนรู้จากหนังสือต่างๆ รวมไปถึงประสบการณ์ตัวเองด้วย มีอะไรบ้างนั้น ลองมาดูกันเลยครับ
คำว่า “คุ้มค่า” เป็นคำที่เราใช้กันบ่อยๆ แต่หลายๆ ทีเราก็ไม่ได้ทำให้เกิดขึ้นเท่าไร ส่วนหนึ่งเพราะเรามักคิดว่ายังไงก็มีพรุ่งนี้ หรือคิดทำนองว่าวันนี้พักก่อนแล้วกัน ไว้พรุ่งนี้น่า พอเป็นแบบนี้มันก็เลยทำให้หลายๆ ครั้งเราไม่ทุ่มเทกับอะไรๆ ให้สุดตัวอย่างที่ควรจะเป็น เช่นเดียวกับไม่ได้ใช้เวลาให้คุ้มค่าหรือเกิดประโยชน์ที่สุดทั้งที่จริงๆ เราก็สามารถทำได้
พอเป็นแบบนี้ผมอยากให้เราลองกลับมาตั้งคำถามบ่อยๆ ว่าในแต่ละวัน ในแต่ละชั่วโมงที่เราใช้เวลาไปนั้น เราได้ใช้มันเป็นการ “ลงทุน” เพื่ออนาคตของเราหรือเปล่า หรือเป็นเพียงแค่การใช้เวลาให้ผ่านไปในแต่ละวัน? ผมเชื่อว่าถ้าเราปรับวิธีคิดและวิธีใช้เวลาของเราในแต่ละวันแล้ว เราก็น่าจะปรับนิสัยอะไรอีกหลายอย่างเลยทีเดียว
ในชีวิตของเรานั้น ยังไงๆ เราก็ต้องพบปะสังสรรค์ รวมทั้งแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆ กับคนมากมาย แต่ก็เป็นคำถามที่เราอาจจะต้องคิดกันว่าในวันนี้นั้นเราใช้เวลาของเราอยู่กับคนที่ “ใช่” หรือเปล่า คนเหล่านั้นจะสร้างอนาคตดีๆ ให้กับเราได้ไหม
ที่พูดแบบนี้เพราะคนบางคนนั้นมีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนอนาคตของเราก็ว่าได้ เพื่อนบางคนจะสามารถเป็นที่ปรึกษาและคอยให้คำแนะนำที่ทำให้เราก้าวหน้าไปได้อย่างดี ในขณะที่ผู้ใหญ่บางคนที่เรารู้จักก็สามารถเป็นครูที่ดี สามารถชี้แนะเราให้ปรับตัวและเติบโตได้ไปมากกว่าปัจจุบัน มันเลยเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องดูด้วยว่าวันนี้ใครบ้างรอบตัวเราที่สามารถพาเราไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
ไม่มีความสำเร็จไหนเกิดขึ้นโดยไม่ทำงาน มันเลยเป็นเรื่องจำเป็นที่เราต้องทำงานให้เต็มที่ ทุ่มเทความสามารถเพื่อให้มันได้ดีที่สุดอย่างที่มันควรจะเป็น การตั้งทัศนคติว่างานต่างๆ จะทำให้ดีที่สุดนั้นย่อมจะทำให้งานต่างๆ อยู่ในความใส่ใจเรื่องคุณภาพ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ย่อมจะออกมาได้ดีกว่าการที่เราทำงานแบบขอไปทีอยู่แล้ว และมันก็จะทำให้ผลงานของคุณดีวันดีคืนในไม่ช้าก็เร็วนั่นแหละ
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมมักจะเจอคือคนที่ประสบความสำเร็จนั้น ส่วนใหญ่มักจะใช้ชีวิตที่เค่อนข้างเรียบง่าย ไม่ได้หวือหวาอะไร และคำว่าเรียบง่ายนี้รวมไปถึงชีวิตประจำวันตลอดจนการทำงานต่างๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรวุ่นวาย สลับซับซ้อนแต่อย่างใด
การทำตัวให้ชีวิตของเราเรียบง่ายทำให้เราไม่ต้องอารมณ์เสีย หรือต้องหัวเสียเวลาอะไรๆ มันดูยุ่งเหยิงนัก ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้เราสามารถเอาสมาธิและพลังงานไปอยู่กับที่เราควรจะใส่ใจ เช่นเรื่องงาน การพัฒนาตัวเอง ฯลฯ ฉะนั้นลองมองชีวิตของเราแล้วตัดเรื่องที่สร้างความวุ่นวายออกไป ลดรายละเอียดบางอย่างไปบ้างก็ดีล่ะครับ
ใครๆ ก็แพ้ได้ ชีวิตเราก็ย่อมมีวันที่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็อย่างที่หลาๆย คนมักพูดกันคือคนขี้แพ้คือแพ้แล้วกองอยู่ตรงนั้นในขณะที่ผู้ชนะคือคนที่แพ้แล้วลุกขึ้นมาสู้ต่อ ทำอย่างไรให้เขาไม่แพ้อีกในอนาคต ทำอย่างไรให้เขาดีขึ้นกว่าเดิม มันเป็นทัศนคติและนิสัยที่สร้าง “ความหวัง” และ “พลังใจ” ได้อย่างดีเยี่ยมซึ่งในภายหลังจะกลายเป็นทักษะชั้นดีในการเรียนรู้ที่อยู่กับความผิดพลาด
เวลาพูดเรื่องนี้ทีไร ก็มักจะพูดเสมอว่าคนเก่งๆ นั้นส่วนใหญ่ผ่านการล้มมาแล้วไม่น้อย แต่พวกเขาก็กลับมาได้ และความสามารถในการ “กลับมา” นี่แหละที่ทำให้เขาเก่งขึ้นเรื่อยๆ และในไม่ช้ามันก็จะกลายเป็นเหมือนความเชื่อที่ปลูกฝังให้ตัวเรานั่นแหละว่ายังไงเราก็สามารถกลับมาได้แถมอาจจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าเดิมด้วย
5 เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผมมักนึกถึงและหยิบมาพูดบ่อยๆ โดยอันที่จริงก็คงมีเรื่องน่าคิดอะไรมากมายเมื่อต้องพูดเรื่องความสำเร็จ ซึ่งผมก็คงหยิบมาเล่ากันอยู่เรื่อยๆ นั่นแหละครับ ^^