ผ่านช่วงปีใหม่มาแล้ว หลายคนอาจจะตั้งเป้าหมายว่าอยากจะให้ปีนี้เป็นปีที่มีสุขภาพดี ไม่เจ็บไม่ป่วยใช่ไหมล่ะคะ นั่นถือเป็นเป้าหมายที่ดีเลยค่ะ แต่ว่าการจะทำให้ถึงเป้าหมายได้ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตก็เป็นสิ่งที่สำคัญนะ เพราะถ้าเรายังคงทำพฤติกรรมเดิม ๆ ซ้ำ ๆ อยู่ ก็คงจะเป็นเรื่องยากที่เราจะบรรลุเป้าหมาย ถ้าใครฟังแบบนี้แล้วเกิดท้อแท้ใจขึ้นมา เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างไรดี ขอบอกว่าให้รีบสลัดความคิดเหล่านั้นออกเสียเดี๋ยวนี้เลยเพราะวันนี้กระปุกดอทคอมจะพาทุกคนไปพบกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สุดแสนจะง่ายกว่าที่คิด ซึ่งช่วยทำให้ปีที่เพิ่งเริ่มต้นนี้เป็นปีที่ดีและสดใส รวมทั้งทำให้คุณมีความสุขกับปีนี้ได้อย่างเต็มที่ รู้เร็ว เริ่มเร็ว ก็มีชัยไปกว่าครึ่งนะคะ ไปดูกันสิว่ามีอะไรบ้างที่เว็บไซต์ businessinsider.com บอกว่าควรจะเริ่มทำเลยเสียเดียวนี้
1. เลิกนั่งติดโต๊ะ ลุกจากโต๊ะทำงานบ้าง
เราอาจจะเคยได้ยินกันมาแล้วว่าการนั่งทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ หลายชั่วโมง จะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ในระยะสั้นอาจจะทำให้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และในระยะยาวก็ส่งผลทำให้อ้วนขึ้น และทำให้มีโอกาสเป็นโรคหัวใจและโรคเบาหวานได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่าทุก ๆ 2 ชั่วโมงที่คนเรานั่งทำงานจะทำให้ความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้สูงขึ้น 8 % และความเสี่ยงโรคมะเร็งมดลูกในเพศหญิงสูงขึ้นถึง 10 % รู้แบบนี้แล้วอาจจะทำให้ใครหลาย ๆ คนรู้สึกกลัวกันแล้วใช่ไหมคะ แต่มีทางแก้ไขค่ะ เพียงแค่คุณลองเปลี่ยนโต๊ะทำงานให้สูงขึ้นจนคุณสามารถที่จะยืนทำงานได้ เลิกนั่งติดเก้าอี้เป็นเวลานาน ๆ หรือไม่ก็หมั่นลุกจากโต๊ะบ่อย ๆ อย่างน้อยก็ชั่วโมงละครั้งก็ยังดีค่ะ ทำแบบนี้บ่อย ๆ รับรองโรคภัยไม่มาเยือนแน่นอน
2. ลดการดื่มน้ำอัดลม
เวลาที่เหนื่อย ๆ จะมีอะไรดีไปกว่าการได้ดื่มน้ำอัดลมเย็น ๆ สักกระป๋องจริงไหมคะ แต่ขอบอกเลยว่าเจ้าน้ำอัดลมเนี่ยมีน้ำตาลอยู่เยอะมากเลยล่ะ แม้ว่าจะเป็นน้ำอัดลมไดเอตก็ตาม และถึงแม้ว่าสมองของคนเราจะต้องการน้ำตาลจำนวนมหาศาลเพื่อใช้เป็นพลังงาน และน้ำอัดลมก็สามารถเติมน้ำตาลให้กับสมองได้ แต่น้ำอัดลมก็ไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกอิ่ม แถมยังเป็นสาเหตุที่ทำให้อ้วนอีกด้วย ที่อันตรายที่สุดก็คือ การดื่มน้ำอัดลมบ่อย ๆ ไม่เพียงทำให้อ้วนและเสี่ยงโรคเบาหวานเท่านั้น แต่ยังส่งผลทำให้อายุสั้นลงอีกด้วย เนื่องจากกรดในน้ำอัดลมจะไปทำให้เยื่อหุ้มปลายของดีเอ็นเอหดสั้นลงค่ะ
3. ออกไปข้างนอกบ้าง
การเก็บตัวอยู่ในบ้านในช่วงวันหยุด แม้หลาย ๆ คนจะบอกว่าเป็นการพักผ่อนวิธีหนึ่ง แต่รู้หรือไม่ว่าการออกไปข้างนอกจะช่วยทำให้คุณอารมณ์ดีขึ้นได้ แถมยังช่วยสร้างเสริมความคิดสร้างสรรค์ได้อีกด้วย มีการศึกษาพบว่า แค่เพียงออกไปเดินเล่นก็สามารถช่วยสร้างเสริมสมองในส่วนของความทรงจำ ทำให้มีความจำดีขึ้น และยังลดความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมได้อีกด้วยล่ะ รู้อย่างนี้แล้วจะรอช้าอยู่ใย รีบออกไปเดินเล่นกันดีกว่าค่ะ
4. หยุดดื่มน้ำผลไม้แล้วมารับประทานผลไม้สดกันดีกว่า
แม้ว่าการดื่มน้ำผลไม้จะทำให้สดชื่น แต่การดื่มแค่เพียงน้ำผลไม้จะทำให้ร่างกายไม่ได้รับไฟเบอร์ เพราะในกรรมวิธีการคั้นน้ำผลไม้ ไฟเบอร์จะถูกกำจัดออกไปจนหมด แถมในน้ำผลไม้ก็ยังมีน้ำตาลสูง เผลอ ๆ อาจจะเยอะกว่าน้ำอัดลมด้วยซ้ำ ยิ่งถ้าหากคุณดื่มน้ำผลไม้เพื่อล้างพิษทั้ง ๆ ที่รับประทานโปรตีนน้อยด้วยละก็ จะยิ่งทำให้คุณสูญเสียมวลกล้ามเนื้อแทนที่จะลดไขมันในร่างกายอีกต่างหาก ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ เลือกรับประทานผลไม้สด ๆ จะดีกว่าเนอะ ได้ไฟเบอร์ช่วยในระบบขับถ่าย และยังได้วิตามินแร่ธาตุครบถ้วนอีกด้วยค่ะ
5. นั่งใกล้หน้าต่าง
การนั่งใกล้หน้าต่างเพื่อรับแสงแดด อาจจะเป็นสิ่งที่สาว ๆ หลายคนไม่ชอบ เพราะกลัวว่าจะดำ แต่จริง ๆ แล้วการนั่งใกล้กับหน้าต่างเพื่อรับแสงแดดไม่ว่าจะตอนไหน จะช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น และทำให้คุณตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งยังช่วยแก้ปัญหานอนไม่หลับได้อีกด้วย ยิ่งถ้าเป็นแสงแดดในตอนเช้า จะยิ่งทำให้นาฬิกาชีวิตของคุณทำงานได้เป็นปกติอีกด้วยล่ะค่ะ เอาล่ะ ถ้าใครที่ยังไม่ชอบนั่งใกล้หน้าต่าง ลองเปลี่ยนใจนะ แล้วจะรู้ว่าสุขภาพของคุณจะดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์เลยค่ะ
6. จดบันทึกในสิ่งที่คุณรู้สึกภูมิใจ
ยังจำได้หรือเปล่าว่าครั้งสุดท้ายที่จดบันทึกนั้นคือเมื่อไร รีบกลับไปหาสมุดบันทึกมาเริ่มจดกันใหม่ได้แล้วค่ะ เพราะมีการศึกษาจำนวนไม่น้อยที่เปิดเผยให้เห็นว่าการจดบันทึกในสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกดีนั้น จะส่งผลดีต่ออารมณ์และความรู้สึก ช่วยทำให้คุณเป็นคนมองโลกในแง่ดีมากขึ้น และมีความพึงพอใจในชีวิตโดยรวมมากขึ้นด้วยล่ะ
7. ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 7 นาที
ข่าวดีสำหรับคนที่อยากมีร่างกายที่แข็งแรงแต่ไม่ค่อยจะมีเวลาค่ะ เพราะมีการศึกษาใหม่ล่าสุดพบว่าการออกกำลังกายในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงวันละ 7 นาที แต่มีความเข้มข้นจะส่งผลดีกับร่างกายได้ในระยะยาว ดังนั้นอย่าใช้ข้ออ้างว่าไม่มีเวลาออกกำลังกายกันเลยดีกว่านะ ใช้เวลาสัก 7 นาทีต่อวันออกกำลังกายกันดีกว่าค่ะ
8. นึกถึงสิ่งดี ๆ ที่จะได้รับ ระหว่างเดินไปถึงเป้าหมาย
ความคิดในแง่บวกเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมายที่วางเอาไว้ แต่ความคิดในแง่ดีนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าหากเรายังมีมุมมองเดิม ๆ อย่างเช่นการศึกษาใหม่ล่าสุดที่ Gabriele Oettingen ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยนิวยอร์กได้เปิดเผยเอาไว้ในหนังสือของเธอที่ชื่อ Rethinking Positive Thinking ว่า การได้มองเห็นผลดีของสิ่งที่ทำในระหว่างการเดินไปสู่เป้าหมายจะช่วยทำให้คนเรามีความคิดในแง่บวกมากขึ้นและเป็นตัวผลักดันให้ก้าวไปสู่เป้าหมายได้อย่างดี ฉะนั้นหากคุณกำลังวางเป้าหมายให้กับตัวเองอยู่ละก็ ลองนึกเพิ่มเติมไปสิว่าระหว่างทางนั้นคุณจะได้รับอะไรบ้าง แล้วจดลงในสมุดไว้คอยเตือนความจำอยู่เสมอ จะช่วยทำให้ไม่ท้อแล้วล้มเลิกไปเสียก่อนอย่างแน่นอน
9. รับประทานเนื้อสัตว์สลับกับถั่วและธัญพืชในทุก ๆ วัน
อยู่ ๆ จะให้งดเนื้อสัตว์ไปเลยก็ดูจะใจร้ายไปเสียหน่อย ถ้าอย่างนั้นลองลดการรับประทานเนื้อสัตว์เหลือเพียงวันละ 1 มื้อดูสิคะ โดยในมื้ออื่น ๆ ที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ก็เปลี่ยนมารับประทานถั่ว หรือไม่ก็ธัญพืชแทน และถ้าหากคุณเริ่มรับประทานถั่วและธัญพืชได้จนเคยชินแล้วละก็ จะงดรับประทานเนื้อสัตว์เลยก็ถือเป็นเรื่องดีค่ะ เพราะการลดการรับประทานเนื้อสัตว์จะช่วยทำให้อายุยืนขึ้นและยังลดโอกาสโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคอ้วน ปัญหาระบบการเผาผลาญ โรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด อย่างเช่นความดันโลหิตสูง และที่สำคัญสามารถลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้อีกด้วยค่ะ
10. ใช้บันไดให้มากขึ้น
ถึงแม้ว่าการใช้ลิฟต์จะเป็นวิธีที่สะดวกสบาย แต่การใช้บันไดก็ช่วยทำให้สุขภาพดีได้มากกว่า ซึ่งมีการศึกษาหนึ่งพบว่าการออกกำลังกายในระยะเวลาสั้น ๆ ตลอดวันช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้นมากกว่าคนที่ใช้เวลาออกกำลังกายเพียงอย่างเดียววันละ 30 นาที และการใช้บันไดแทนการใช้ลิฟต์ ก็ถือเป็นการออกกำลังกายชนิดหนึ่ง หากคุณต้องขึ้นลงเพียงไม่กี่ชั้นขอแนะนำให้ใช้บันไดดีกว่าค่ะ ถึงแม้ว่าอาจจะใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกหน่อยแต่เพื่อสุขภาพที่ดีกว่าก็คุ้มนะ
11. วางต้นไม้ไว้บนโต๊ะทำงาน
การวางต้นไม้ต้นเล็ก ๆ หรือดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะทำงาน นอกจากจะทำให้โต๊ะทำงานของคุณดูมีชีวิตชีวาแล้ว ก็ยังช่วยทำให้คุณมีอารมณ์ดีได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเจ้าต้นไม้เหล่านี้ยังช่วยดูดซับสารพิษที่อยู่ภายในที่ทำงานอีกด้วย ช่วยทำให้บริเวณโต๊ะทำงานของคุณมีอากาศที่บริสุทธิ์มากขึ้น แต่ถ้ายังคิดไม่ออกว่าจะเอาต้นไม้ชนิดใดมาวาง และรู้สึกมีปัญหากับการดูแลรักษาละก็ ลองหาต้นกระบองเพชรต้นเล็ก ๆ มาวางก็ดีนะคะ เพราะเจ้าต้นกระบองเพชรนี้ทนได้ทุกสภาพอากาศแถมไม่ต้องดูแลเอาใจใส่มากอีกด้วยค่ะ
12. ลดการมองจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ลงบ้าง
เคยสังเกตกันไหมคะ ว่าเวลาที่เรามองจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เราจะกระพริบตาน้อยกว่าการอ่านหนังสือหรือเวลาปกติทั่วไป ซึ่งการที่เรากระพริบตาน้อยลงนั้นจะทำให้ตาของเราเกิดอาการแห้ง และถ้าหากเกิดเรื้อรังก็จะทำให้ต่อมน้ำตาของเราผลิตน้ำตาได้น้อยลง และทำให้ตาของเราขาดความชุ่มชื้นได้ นอกจากนี้รังสีและแสงสีฟ้าจากหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก็ยังอาจทำให้สายตาเสียอีกด้วยค่ะ รู้แบบนี้แล้วลดการเล่นคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์กันดีกว่าเนอะ และถ้าหากต้องใช้สายตาในการจ้องหน้าจออุปกรณ์เหล่านี้นาน ๆ ก็ควรจะพักสายตาบ้างก็จะช่วยได้ค่ะ
สิ่งดี ๆ ที่นำมาบอกเล่ากันไปนี้ คิดว่าก็คงไม่ยากจนเกินไปใช่ไหมคะ ขอบอกเลยแค่เราเริ่มทำสิ่งเหล่านี้ก็รับรองได้ว่าชีวิตของคุณจะพบความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน แต่นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้วก็อย่าลืมรักตัวเองให้มาก ๆ และรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ จะได้มีสุขภาพดี ๆ พร้อมลุยกับปีที่ดี ๆ ได้อย่างมีความสุขค่ะ