แชทเพลินเกินห้ามใจ จ้องจออย่างไรไม่ให้เสียสายตา

  หนุ่มสาวชาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ นี้คงหลีกเลี่ยงการใช้งานคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์โฟนเป็นเวลานาน ๆ ไม่ได้แน่ แต่การเล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พวกนี้เป็นเวลานาน จะทำให้สุขภาพตาของเราถดถอยลงไปเรื่อย ๆ สังเกตได้จากความผิดปกติของร่างกายที่ฟ้องด้วยอาการปวดตา สายตาพร่ามัว และปวดหัว แต่รู้ไหมว่า เราสามารถป้องกันไม่ให้สายตาถูกทำร้ายไปมากกว่านี้ได้นะ จากข้อมูลในเว็บไซต์ Businessinsider.com ได้แนะนำ ‘Eye-gonomics’ หรือ วิธีที่จะช่วยให้การใช้งานคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟนทำร้ายสุขภาพตาได้น้อยลงแม้จะต้องใช้งานเป็นเวลานาน ๆ ดังนั้น ใครไม่อยากให้สุขภาพตาเสียก่อนวัยอันควร ต้องอ่านนะ !


              จากผลการวิจัยล่าสุดของ American Academy of Optometry เผยว่า การนั่งทำงานหน้าจอแล็ปท็อปเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมงก็มีแนวโน้มทำให้สุขภาพตาเสียได้แล้ว โดยอาจส่งสัญญาณเตือนเป็นอาการตาแห้ง ปวดตา สายตาพร่ามัว สายตาสั้น  นอกจากนี้ยังสำรวจพบด้วยว่า ผู้ใช้คอมพิวเตอร์กว่าร้อยละ 70 มีปัญหาด้านสายตาจากการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานกว่า 8 ชั่วโมงจากการทำงานในแต่ละวัน ซึ่งรวมถึงการใช้งานอุปกรณ์แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟนนอกเวลางานด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเช็กอีเมลงาน เล่นเกม หรือการอ่านเนื้อหาสาระทั่วไปบนเว็บไซต์ โดยหากใช้สายตาเพ่งดูจออิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลานานแล้ว ดวงตาจะมีสัญญาณเตือนให้เราหยุดพักได้แล้วนั่นคือ อาการดวงตาเมื่อยล้า ซึ่งหากเราละเลยสัญญาณเตือนนี้เป็นประจำละก็ รับรองว่า สุขภาพดวงตาของคุณเสื่อมไวแน่  ดังนั้น เรามาดูวิธีการป้องกันกันดีกว่าค่ะ 

    แชทเพลินเกินห้ามใจ จ้องจออย่างไรไม่ให้เสียสายตา
     
     3 สเต็ป ใช้งานคอมพิวเตอร์โดยไม่เสียสายตา 
                    
              ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยา เผยว่า การใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานนั้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพตาก็จริง แต่เราก็สามารถป้องกันไม่ให้คอมพิวเตอร์ทำลายสุขภาพตาเราได้เช่นกัน  ดังนี้

               หมั่นทำความสะอาดหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่เสมอ วิธีนี้จะทำให้เรารู้ว่าแสงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นจ้าเกินไปหรือไม่ เพราะหากเราไม่เคยเช็ดทำความสะอาดเลย จนหน้าจอดำ ก็มีโอกาสทำให้เราต้องปรับแสงคอมพิวเตอร์มากขึ้นนั่นเอง

               อย่าใช้คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ตในที่มืดหรือที่ที่มีแสงสว่างน้อย เพราะแสงจ้าจากหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ในที่มืดจะทำให้รูม่านตาของเราปรับการรับแสงไม่ทัน  

               ตั้งแบ็คกราวน์ให้มีสีทึบ รูปภาพที่ไม่ลายตามากนัก และหลีกเลี่ยงแบ็คกราวน์ที่มีสีสดเกินไป หรือสว่างกว่าสีขาว

     5 กฎเหล็กในการใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างปลอดภัย
                
              หนุ่มสาวชาวออฟฟิศควรเช็กให้ดีนะคะว่า ท่านั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทุกวันนี้ถูกต้องดีแล้วหรือยัง มาดู 5 กฎเหล็กที่จะช่วยให้เราห่างไกลจากโรคออฟฟิศซินโดรมกันดีกว่า

               การนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ถูกต้องนั้น ควรนั่งให้ระดับสายตาห่างจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ในระยะ 1 ช่วงแขน 

               ต้องปรับที่นั่งให้สูงขึ้นกว่าหน้าจอเล็กน้อย ให้เรามองเห็นจอในระดับ 20-40 องศา  

               ปรับหน้าจอให้ตั้งตรง ไม่เชิดขึ้นเป็นมุมฉาก

               ควรเลือกเก้าอี้ที่มีพนักพิงรองรับแผ่นหลัง ทำให้เราพิงได้ในลักษณะที่แผ่นหลังตั้งตรง และขาของเก้าอี้ต้องสามารถวางเท้าได้

               ควรวางโต๊ะคอมพิวเตอร์ในจุดที่มีแสงสว่างเพียงพอ กรณีโต๊ะคอมพิวเตอร์อยู่ในที่ที่มีแสงสลัว แนะนำว่าให้ใช้โคมไฟตั้งโต๊ะช่วยเพิ่มแสง

    แชทเพลินเกินห้ามใจ จ้องจออย่างไรไม่ให้เสียสายตา

     ‘20-20-20’ กฎการผ่อนคลายดวงตาอ่อนล้า
                
              หากจ้องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานเกินไป อาจเกิดอาการดวงตาล้าได้โดยไม่รู้ตัว  ทางที่ดีควรเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง โดยการลุกจากโต๊ะไปทำอย่างอื่น หรือใช้กฎพักสายตาแบบ  20-20-20 หรือการหยุดพักการจ้องจอคอมทุก ๆ 20 นาที ด้วยการเปลี่ยนอิริยาบถตัวเอง ลุกขึ้นเดินออกให้ได้ 20 ก้าว พร้อมกับสำรวจตัวเองว่ามีอาการผิดปกติที่ดวงตาหรือไม่ภายในเวลา 20 วินาที ซึ่งกฎการพักสายตานี้หนุ่มสาวออฟฟิศไม่ควรละเลยนะคะ สำคัญมาก 
     
     3 ขั้นตอนอย่างง่าย ใช้สมาร์ทโฟนแล้วไม่เสียสายตา 
                    
              นอกจากจ้องคอมพิวเตอร์แล้ว ก็ยังมีสมาร์ทโฟนที่เผลอ ๆ เราจะใช้เวลาอยู่กับสิ่งนี้มากกว่าคอมพิวเตอร์ซะอีก ซึ่งท่าเล่นสมาร์โฟนในตลอดทั้งวันของเราอาจไม่ถูกต้องนัก ทำให้มีอาการผิดปกติต่าง ๆ ตามมา เช่น ปวดตา ปวดคอ ปวดหัว นิ้วล็อก หรือ ปวดแขนได้ เป็นต้น ซึ่งเรามี 4 ขั้นตอนมาแนะนำ ที่จะช่วยให้การเล่นสมาร์ทโฟนนั้นไม่ทำให้เราเสียสายตา

               ปรับขนาดตัวอักษรให้ใหญ่พอที่เรามองเห็นอย่างสบาย ๆ โดยไม่ต้องเพ่งสายตา

               ถือสมาร์ทโฟนให้เต็มฝ่ามือ และถือให้ต่ำกว่าระดับสายตา โดยการงอแขน และถือหน้าจอแนวตั้งตรง

               ปรับสีแบ็คกราวน์ ธีมหน้าจอ ค่าความสว่างในระดับที่พอเหมาะ รวมถึงปรับแสง Contrast บนหน้าจอไม่ให้จ้าเกินไป

              ทั้งนี้ ใครที่รู้ตัวว่าเป็นนักแชทตัวยง หรือชาวสังคมก้มหน้าตัวจริงละก็ ควรเอาคำแนะนำที่เรามาฝากนี้ไปปรับใช้กันดูนะคะ และข้อสำคัญที่ต้องจดจำก็คือ ควรใช้อุปกรณ์เหล่านี้ในระยะเวลาที่พอสมควร เพื่อที่ว่าสุขภาพดวงตาของเราจะได้ไม่แย่ก่อนวัยอันควร เพราะสุขภาพตานั้น หากมีอาการเสื่อมเกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่ามีเงินเท่าไรก็ไม่สามารถรักษาให้กลับมาดีเหมือนเดิมได้นะคะ