ไลฟทูน คีเลต แมกนีเซียม 100มก. 60เม็ด



ไลฟทูน ซีวีดแคลเซียมพลัส มิเนอรัล 1,000มก. 45แคปซูล



ไลฟทูน คีเลต ซิงค์ 15มก. 90เม็ด



ไลฟทูน คีเลต โครเมี่ยม 100มก. 90เม็ด



ไลฟทูน น้ำมันปลาไร้กลิ่น 1,000มก 45แคปซูล

ไขมันในช่องท้อง เสกให้หายได้ด้วยอาหาร

  ภาวะไขมันในช่องท้อง ภัยร้ายที่แม้แต่คนผอมก็ต้องระวังนั้น เป็นภาวะที่สามารถป้องกันได้ไม่ยากเลย เพียงแค่เราหันมาปรับพฤติกรรมการกินให้ถูกสุขลักษณะมากขึ้นเท่า­­­นั้น โดยเน้นกินอาหารประเภทโปรตีนและไขมันดี ลดปริมาณการกินคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายจะสะสมอยู่ในรูปไขมั­­น พูดหลักการคร่าว ๆ อาจจะฟังดูง่าย แต่คงไม่เห็นภาพกันแน่ กระปุกดอทคอมเลยนำข้อมูลดี ๆ ในเว็บไซต์ thescienceofeating.com มาฝากให้ลองอ่านกัน นั่นคือ อาหารใกล้ตัวช่วยสลายไขมันในช่องท้อง หาทานง่ายมาก กินแล้วรับรองหายห่วงไม่มีไขมันในช่องท้องสะสมเพิ่มขึ้นอีกชัวร­­­์ ๆ 


    ไขมันในช่องท้อง เสกให้หายได้ด้วยอาหาร

    อาหาร 3 กลุ่มพิชิตไขมันในช่องท้อง 

              หากไม่อยากให้การกินเป็นตัวการสะสมไขมันในช่องท้องเพิ่มขึ้น ลองดูอาหาร 3 กลุ่มต่อไปนี้ที่เมื่อกินเป็นประจำแล้วก็สบายใจได้เลยว่าจะไม่ม­ีไขมันในช่องท้องมากวนใจเราอีกแน่นอน 

    ไขมันในช่องท้อง เสกให้หายได้ด้วยอาหาร

     อาหารที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว 

              นักวิจัยเผยว่า การกินไขมันดี หรือกรดไขมันไม่อิ่มตัว อย่างเช่น กรดไขมันโอเมก้าทรี นั้นสามารถลดการสะสมของไขมันหน้าท้องได้ เพราะกรดไขมันไม่อิ่มตัวจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างไขมันดีเพ­­­ิ่มขึ้น ร่างกายมีการเผาผลาญพลังงานเป็นปกติขึ้น แคลอรีส่วนเกินไม่มี จึงทำให้พุงยุบ มาดูกันว่า อาหารที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่เราควรกินนั้นมีอะไรบ้าง 

              น้ำมันพืช เช่น น้ำมันเมล็ดฝ้าย น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันดอกป๊อปปี้ น้ำมันจากเมล็ดปอ น้ำมันเมล็ดเจีย น้ำมันมะกอก น้ำมันจากเมล็ดอัลมอนด์คั่ว น้ำมันถั่วลิสงคั่ว และ น้ำมันเม็ดมะม่วงหิมพานต์คั่ว 

              ถั่วคั่วหรือถั่วอบแห้ง เช่น วอลนัท อัลมอนด์ แมคคาเดมีย พีแคนส์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ฮาเซลนัท พิสตาชิโอ เมล็ดสน ถั่วลิสง และถั่วบราซิล 

              ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาเทราต์ ปลาเฮริง ปลาแมคเคอเรล ปลาหิมะ และปลาซาร์ดีน 

              ผลไม้บางชนิด อะโวคาโด ผลมะกอก ผลโกโก้ (ดาร์กช็อกโกแลต) 

    ไขมันในช่องท้อง เสกให้หายได้ด้วยอาหาร

     อาหารหมู่โปรตีน 

              สำหรับการจะลดไขมันในช่องท้องให้เห็นผลไวนั้น เราควรหันมาเน้นกินอาหารหมู่โปรตีนให้ได้ประมาณร้อยละ 30 ให้ได้ทุกวัน เพราะสารอาหารโปรตีนจะช่วยให้ร่างกายเร่งสร้างกล้ามเนื้อแทนการ­­­สร้างชั้นไขมันนั่นเอง โดยอาหารหมู่โปรตีนที่เราควรกินให้ได้ทุกมื้อ ได้แก่ เนื้อสัตว์ ควรเลือกบริโภคตรงส่วนที่ไม่ติดมัน หรือเนื้อสัน เช่น เนื้ออกไก่ เนื้อสันในหมู เนื้อวัว เนื้อลูกวัว เนื้อแกะ และไข่ไก่ 

    ไขมันในช่องท้อง เสกให้หายได้ด้วยอาหาร

     ธัญพืชไม่ขัดสี 

              จากผลการวิจัยเมื่อปี 2010 ของ American Journal of Clinical Nutrition เผยว่า คนที่กินธัญพืชเต็มเมล็ด หรือโฮลเกรนมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน มีความเสี่ยงต่ำเพียงร้อยละ 10 ที่จะเกิดภาวะไขมันในช่องท้อง เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ค่อยกินธัญพืชเลยในแต่ละวัน เพราะธัญพืชไม่ขัดสีเป็นอาหารหมู่คาร์โบโฮเดรตที่กินแล้ว จะไม่เกิดการสะสมเป็นไขมันในร่างกาย ได้แก่ ข้าวโอ๊ต มูสลี่ (Muesli) ข้าวกล้อง ข้าวบาร์เล่ย์ ข้าวกล้อง และควินัว ซึ่งมีคุณค่าสารอาหาร ดังนี้ 

              เยื่อหุ้มเมล็ด (Bran) ส่วนที่อยู่นอกสุด อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร โปรตีน มีวิตามินบี รวมถึงแร่ธาตุไฟโตนิวเตรียนท์

              เนื้อเมล็ด (Endosperm) ส่วนหลักของธัญพืชที่ให้พลังงานแก่ร่างกายเรา เพราะเนื้อเมล็ดเป็นแป้งอุดมด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และวิตามินบี 

              จมูกข้าว (Germ) ส่วนที่เล็กที่สุดของธัญพืช อุดมไปด้วยวิตามินบี วิตามินอี และแร่ธาตุไฟโตนิวเตรียนท์ต่าง ๆ 

     ไขมันในช่องท้อง ไม่อยากมี ต้องเลี่ยง ! 

              หลังจากที่เราได้รู้จักกับอาหารช่วยลดไขมันในช่องท้องกันไปแล้ว­­­ เราก็ควรมาทำความรู้จักกับอาหารตัวร้ายที่จะทำให้ไขมันในช่องท้­­­องสะสมมากขึ้นกันด้วย เพื่อที่เราจะได้ไม่เผลอกัน เชื่อว่า อาหารบางอย่างก็เป็นของโปรดของใครหลาย ๆ คนด้วย ดังนั้น หากไม่อยากมีพุง ไม่อยากมีไขมันสะสมในช่องท้อง เราก็ควรยับยั้งชั่งใจให้ได้นะคะ เอาล่ะ ! มาเช็กกันหน่อยว่า อาหารอะไรบ้างที่เป็นศัตรูร้ายต่อความผอมของเรา 

    ไขมันในช่องท้อง เสกให้หายได้ด้วยอาหาร

     น้ำตาลฟรุกโตส 

              จากผลการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Georgia Health Sciences เผยว่า ร่างกายของเราควรได้รับปริมาณน้ำตาลฟรุกโตสในแต่ละวันประมาณร้อ­­­ยละ 20 หากเกินกว่านี้อาจเกิดโทษต่อร่างกายได้ ซึ่งน้ำตาลฟรุกโตสที่เราควรหลีกเลี่ยงก็คือ น้ำตาลสังเคราะห์ต่าง ๆ ที่อาจแฝงตัวอยู่ในรูปแบบอาหารต่าง ๆ ดังนี้ 

              น้ำโซดา น้ำอัดลม เครื่องดื่มบำรุงกำลัง และน้ำผลไม้สำเร็จรูป 
              น้ำเชื่อม หรือ ไซรัป 
              น้ำตาลทราย 
              
              อย่างไรก็ตาม น้ำตาลฟรุกโตสก็มีอยู่ในผลไม้ธรรมชาติ และมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย การกินผลไม้นอกจากจะทำให้เราได้รับน้ำตาลฟรุกโตสในปริมาณพอเหมา­­­ะที่ไม่ทำให้อ้วนแล้ว เรายังได้รับคุณค่าสารอาหารอื่น ๆ อีกด้วย 

    ไขมันในช่องท้อง เสกให้หายได้ด้วยอาหาร

     ไขมันทรานส์ 

              ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัย Wake Forest เผยว่า ไขมันทรานส์จะทำให้หน้าท้องมีไขมันสะสมอยู่มากจนสามารถเห­็นเป็นพุงป่องยื่นออกมาได้ อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อน้ำหนักตัวของเรา หากเรากินไขมันชนิดนี้เป็นประจำก็จะส่งผลให้ร่างกายเรามีระดับค­­­อเลสเตอรอลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น และยังเพิ่มความเสี่ยงให้เราเป็นโรคหัวใจได้อีกด้วย มาดูกันว่าอาหารที่มีไขมันทรานส์อยู่สูงนั้นจะมีอะไรบ้าง 

              เนยขาว (shortenings) และ Stick มาการีน มาการีนประเภทนี้มีไขมันทรานส์สูงถึงร้อยละ 70 ในขณะที่ Soft มาการีนมีไขมันทรานส์อยู่ร้อยละ 50-60 
              อาหารสำเร็จรูป (Packaged Foods) 
              ขนมปังและเบเกอรี เช่น พาย แครกเกอร์ เวเฟอร์ คุกกี้ เค้ก โดนัท เบเกิล และเพรซเซล 
              ขนมกรุบกรอบ เช่น มันฝรั่งทอดกรอบ ข้าวโพดอบกรอบ และข้าวเกรียบ 
              อาหารฟาสต์ฟู้ด เช่น ไก่ทอด ปลาทอด เฟรนช์ฟรายด์ พิซซ่า สปาเกตตี้ แฮมเบอร์เกอร์ ชีสเบอร์เกอร์ และฮอตด็อก 

    ไขมันในช่องท้อง เสกให้หายได้ด้วยอาหาร

     อาหารกลุ่มแป้งขัดขาว 

              อาหารในกลุ่มแป้งขัดขาว ก็คือ อาหารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตที่มีกระบวนการขัดสีเอากากใยอาหารออกไ­­­ป เหลือแต่ส่วนที่เป็นเมล็ดเท่านั้น เมื่อกินเข้าไปแล้วร่างกายจะเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล และจะสะสมอยู่ในรูปของไขมันหากร่างกายเผาผลาญไม่หมด ซึ่งกลุ่มธัญพืชขัดขาวที่ควรหลีกเลี่ยงนั้นได้แก่ 

              แป้งสาลีที่ใช้ทำขนมและเบเกอรี เช่น คุกกี้ เค้ก ขนมปัง เบเกิล เส้นพาสต้า เส้นสปาเกตตี เส้นมักกะโรนี 
              แป้งข้าวเจ้า หรือแป้งสด เช่น กุยช่าย ขนมจีบ ถั่วแปบ และขนมจีน 
              แป้งมันสำปะหลัง เช่น น้ำราดหน้า น้ำเชื่อมของหวาน เส้นผัดไทย ขนมตะโก้ ขนมทอดกรอบจากมันสำปะหลัง ขนมบ้าบิ่น และมันเส้นกรอบเค็ม 

              ทั้งนี้ การจะลดไขมันในช่องท้องไม่ให้สะสมตัวไปมากกว่านี้ นอกจากเรื่องอาหารการกินแล้ว ยังต้องหมั่นออกกำลังกายให้ได้ 45 นาที ติดต่อกันสัปดาห์ละ 6 วัน โดยต้องเป็นการออกกำลังที่บริหารร่างกายได้ครบทุกส่วนด้วย เพียงเท่านี้พุงของเราก็จะยุบได้ไวขึ้น ไขมันในช่องท้องไม่มีสะสมเพิ่ม และยังทำให้เราห่างไกลจากโรคร้ายได้อีกด้วย