ไลฟทูน น้ำมันปลาไร้กลิ่น 1,000มก 45แคปซูล
เป็นสูตรที่มีโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 สูง โดยให้ EPA และ DHA รวมสูงถึง 500 มิลลิกรัมต่อแคปซูล แต่งกลิ่นเปเปอร์มิ้นท์จึงทำให้ไม่มีกลิ่นคาว ผ่านการทดสอบปริมาณตะกั่วและสารหนู นำเข้าจากประเทศนิวซีแลนด์
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง , คลอเรสเตอรอลสูง, ความดันโลหิตสูง, ต้องการบำรุงประสาทและสมอง
วิธีใช้ : รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1-3 ครั้ง พร้อมมื้ออาหาร หรือตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร
ส่วนผสม : EPA 300 mg. และ DHA 200 mg.
(กรดไขมันสูง ถ้าเทียบกับสินค้ายี่ห้ออื่นในตลาด)
สรรพคุณ :
กรดไขมันไม่อิ่มตัวจากน้ำมันปลา จะช่วยลดและละลายไขมันที่อุดตันในหลอดเลือด ละลายไขมันเลว และคลอเรสเตอรอลที่อุดขวางทางเดินของเลือด ทำให้คนที่ป่วยเป็นไขมันอุดตันจนความดันสูงนั้น มีไขมันอุดตันลดลง ความดันลดลง แต่ไม่เหมาะกับคนที่มีความดันต่ำ (เพราะอาจจะทำให้ความดันลดต่ำลงได้) กรดไขมันจะช่วยบำรุงสมอง เพราะมี DHA ช่วยฟื้นฟูความจำ และบำรุงเซลสมอง ช่วยให้มีความจำที่ดีขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติม :
น้ำมันปลา คือส่วนที่สกัดมาจากจากส่วนของเนื้อ หนัง หัว หาง ของปลาโดยเฉพาะปลาในเขตหนาว ซึ่งในน้ำปลาจะมีกรดไขมันอยู่หลายชนิด
น้ำมันปลาประกอบด้วย กรดไขมันโอเมก้า-3 และกรดไขมันโอเมก้า-6 สำหรับกรดไขมันโอเมก้า-3 นั้นจะแบ่งออกเป็น EPA และ DHA เป็นหลัก ซึ่งเป็นกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกายอย่างมาก เพราะว่าร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ ต้องได้รับจากสารอาหารเท่านั้น และสำหรับกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า-6 นั้นก็มีความสำคัญไม่แพ้กันเพราะช่วยลดไขมันได้เลือดได้
EPA เป็นกรดไขมันกลุ่ม Omega-3 และ Omega-6 ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวให้พลังงานกับเซล ส่วน DHA เป็นกรดไขมันสำคัญที่พบในเยื่อหุ้มเซลล์ ส่วนใหญ่จะถูกส่งไปที่สมองเนื่องจากสมองต้องการมากที่สุด
ในเชิงวิชาการถ้าจะกินหวังผลลดไขมันอุดตัน หรือ บำรุงสมองกันจริงๆต้องกินให้ได้สาร EPA วันละ 720 มิลลิกรัม และ DHA วันละ 480 มิลลิกรัม (ประมาณ 2 - 3 เม็ด/วัน) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณของ EPA และ DHA ที่สินค้าแต่ละแบรนด์จะใส่ไว้มากน้อยแตกต่างกัน
(ถ้าเป็นยี่ห้ออื่นอาจจะต้องกิน 3 เม็ดต่อวัน ถ้าตรา Lifetune รับประทาน 2 เม็ดต่อวันก็ได้แล้ว)
น้ำมันปลาส่วนมากจะเหม็นคาว และอาจจะทำให้เกิดกลิ่นคาวปลา เมื่อมีอาการท้องอืด หรือเรอออกมา ทำให้ผู้ผลิตเดี๋ยวนี้พัฒนาปรับสูตรใหม่ให้รับประทานง่ายมากขึ้น (Odourless Fish Oil) ของ Lifetune แต่งกลิ่นเป็นเปเปอร์มินท์ ทำให้ไม่คาว และรับประทานง่าย
ข้อแนะนำในการรับทานน้ำมันปลา
1. การรับประทานเป็นอาหารเสริมเพื่อป้องกันการเกิดโรคหัวใจ หรือไขมันอุดตันในระบบหลอดเลือด ควรรับประทานวันละ 1,000 มิลลิกรัม หลังอาหาร
2. การรับประทานเพื่อรักษาโรค ควรรับประทานวันละ 3,000 มิลลิกรัม หรือตามคำแนะนำของแพทย์
3. การเลือกซื้ออาหารเสริมน้ำมันปลานั้น ควรจะดูที่ปริมาณ DHA และ EPA เป็นหลักโดยควรมีมากกว่า 30% ปริมาณทั้งหมด
4. การรับประทานอาหารเสริมโอเมก้า-3 ในปริมาณสูงอาจทำให้บางคนเกิดอาการฟกช้ำ เลือดออกได้ง่ายจากอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย ดังนั้นผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดอาการฟกช้ำหรือเลือดออกง่าย ควรหลีกเลี่ยงอาหารเสริมประเภทนี้
5. ผู้ที่มีภาวะความดันต่ำอยู่แล้ว ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานน้ำมันปลา เพราะน้ำมันปลาอาจจะทำให้ลดความดันลดต่ำลงไปอีก
6. DHA แม้จะช่วยเสริมสร้างระบบประสาทและสมองเพื่อเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้ในวัยเด็กของทารกได้ก็จริง แต่มันก็ใช้ได้สำหรับเด็กอายุประมาณ 5 ขวบเท่านั้น และจากการ ศึกษาก็พบว่ามันมีส่วนช่วยในเรื่องของความจำให้ดีขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น ดังนั้นมันจึงไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกอย่าง รับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ และรับประทานให้ครบ 5 หมู่จะดีที่สุด
อย. 11-1-02544-1-0158
ข้อบ่งใช้ : ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่มีผลในการป้องกัน หรือรักษาโรค ควรรับประทานอาหารหลากหลายให้ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ
หมายเหตุ : ห้ามใช้ในผู้ป่วยความดันต่ำ หรือผู้ที่มีอาการเลือดแข็งตัวช้า หรือผุ้ที่ใช้ยากลุ่มแอสไพริน หรือยาละลายลิ่มเลือด
ส่วนประกอบ
Fish Oil 1000 mg.
EPA = 300 mg.
DHA = 200 mg.
ขนาดบรรจุ : 45แคปซูลต่อขวด